ตลอดมาที่ทุ่มเททำ SEO อย่างหนัก จนในที่สุดคีย์เวิร์ดสำคัญก็ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 บนหน้าแรกของ Google ได้สำเร็จ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณกลับพบว่ามี “กล่องคำตอบ AI” ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา เหนืออันดับของคุณ ชิงเอาความสนใจและคำตอบไปจากผู้ใช้งานก่อนที่พวกเขาจะทันได้เห็นลิงก์ของคุณเสียอีก

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เรียกว่า AI Overviews (AIO) ซึ่งกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการค้นหาไปอย่างสิ้นเชิง แต่แทนที่จะมองว่าเป็นวิกฤต จากประสบการณ์ของ ANGA เรามองว่านี่คือโอกาสครั้งใหม่สำหรับธุรกิจที่พร้อมจะปรับตัว บทความนี้จะเปิดเทคนิคทั้งหมดว่าจะ “ทำยังไงให้ติด AI Overviews” ด้วยเทคนิคที่เราใช้แล้วได้ผลจริงกัน

ทำความรู้จัก AI Overviews

AI Overviews

หากจะอธิบายให้เห็นภาพที่สุด AI Overviews ก็เปรียบเสมือน “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่ Google ส่งมาสรุปคำตอบที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทันที โดยที่ยังไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ไหนเลย โดยที่ AI จะทำการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลาย ๆ เว็บไซต์ที่มันมองว่าน่าเชื่อถือที่สุด แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นคำตอบที่กระชับและตรงประเด็นที่สุดในรูปแบบของกล่องข้อความที่ด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหา ซึ่งหมายความว่าสมรภูมิการแข่งขันไม่ได้อยู่แค่การแย่งชิงอันดับ 1 - 10 อีกต่อไป แต่คือการทำให้เนื้อหาของเราดีมากพอที่จะถูก AI “เลือก” ไปเป็นคำตอบสุดท้าย

โดย เกน รัชวิทย์ หวังพัฒนธน - Managing Director at ANGA (คลิกประวัติ)

ปี 2024 Google อัปเดทฟีเจอร์ของการแสดงผลลัพธ์การค้นหาที่เรียกว่า AI Overviews ซึ่งก็ดูตอบโจทย์พฤติกรรมการค้นหาที่คนเริ่มสนใจคำตอบที่สรุปจาก AI ก็ถือว่าดีที่ Google ขยับตัว ซึ่งก็มีทั้งข้อดีสำหรับผู้ใช้งาน ก็คือได้รับคำตอบทันทีโดยไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ แต่ข้อที่ต้อง Concern ก็คืออัตราการคลิกเข้าเว็บไซต์น่าจะลดลง ไม่ว่าจะเป็น Click, Active Users และอื่น ๆ ในอนาคต

ทำไมการติด AI Overviews ถึงสำคัญกว่าที่คิด

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทุกธุรกิจ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณต้องให้ความสำคัญกับการหา วิธีติด AI Overviews ตั้งแต่วันนี้

  • สงคราม Zero-Click Search : เมื่อผู้ใช้ได้คำตอบที่ต้องการจากกล่อง AIO แล้ว พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์อื่นต่อ ทำให้ Traffic ที่เคยได้รับอาจลดลงอย่างน่าใจหายหากคุณไม่สามารถเข้าไปอยู่ในพื้นที่นี้ได้
  • ตั๋วสู่การเป็น Authority : การที่เนื้อหาของคุณถูก AI เลือกไปอ้างอิง เป็นการประกาศโดยนัยว่าคุณคือ “ผู้เชี่ยวชาญ” ในเรื่องนั้น ๆ สิ่งนี้ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ (Brand Authority) ให้กับแบรนด์ของคุณได้อย่างมหาศาล
  • ชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง : ในขณะที่คู่แข่งยังคงอยู่กับการทำอันดับแบบเดิม ธุรกิจที่ปรับตัวและสามารถยึดครองพื้นที่บน AI Overviews ได้ก่อน จะกลายเป็นตัวเลือกแรกในใจของผู้บริโภคทันที

10 วิธีทำให้ติด AI Overviews จาก ANGA

จากการศึกษาและปรุงปรับกลยุทธ์จาก SEO Specialist หรือผู้เชี่ยวชาญด้วยการทำ SEO ของ ANGA (แองก้า) นี่คือ 10 เทคนิคที่เราใช้ เพื่อพาคอนเทนต์ของคุณไปอยู่ใน AI Overviews 

1. สร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่ AI เชื่อใจ ตามหลัก E-E-A-T

นี่คือรากฐานที่สำคัญที่สุด AI ของ Google ถูกฝึกมาให้มอบคำตอบที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะกับหัวข้อที่ส่งผลต่อเงินหรือชีวิต (YMYL - Your Money or Your Life) ดังนั้นเนื้อหาของคุณต้องแสดงออกถึง E-E-A-T อย่างชัดเจน ซึ่งประกอบด้วย Experience (ประสบการณ์), Expertise (ความเชี่ยวชาญ), Authoritativeness (ความมีอิทธิพล) และ Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ) 

จากประสบการณ์ของ ANGA ในการดูแลลูกค้ากลุ่มการแพทย์และการเงิน เราพบว่าการระบุตัวตนผู้เขียนที่เป็นแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจริง ๆ พร้อมแสดงใบประกอบวิชาชีพ จะเพิ่มโอกาสให้ AI เชื่อใจและเลือกข้อมูลไปใช้อย่างมีนัยสำคัญ

2. ตอบคำถามให้ตรงจุดและครอบคลุม (Answer Search Intent)

เลิกเดาใจคนค้นหา แต่ให้ทำความเข้าใจความต้องการที่แท้จริง (Search Intent) ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคีย์เวิร์ดนั้น ๆ ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น

  • คนค้นหาว่า “วิธีลดน้ำหนัก” : พวกเขาต้องการบทความ How-to ที่บอกขั้นตอนชัดเจน, เปรียบเทียบวิธีต่าง ๆ, และอธิบายหลักการทางการแพทย์
  • คนค้นหาว่า “ฟิตเนสใกล้ฉัน”: พวกเขาต้องการข้อมูล Local Business ที่มีชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทร, เวลาเปิด-ปิด และรีวิว

การสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ครบถ้วนในหน้าเดียว คือเคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้ AI มองว่าเว็บของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่สมบูรณ์

3. เปลี่ยนศัพท์เทคนิคให้เป็นภาษาคน (Use Plain Language)

AI ชอบความเรียบง่ายและตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิคที่ซับซ้อนหรือประโยคที่เป็นทางการจนเกินไป ให้เขียนเหมือนกำลังอธิบายเรื่องยาก ๆ ให้เพื่อนฟัง

  • แบบเก่า : การใช้ Schema Markup เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงโครงสร้างของข้อมูลบนเว็บไซต์ เพื่อส่งเสริมการประมวลผลของ Search Engine
  • แบบใหม่ : Schema Markup คือการติดป้ายบอก AI ให้รู้ว่าข้อมูลส่วนนี้คืออะไร เช่น นี่คือคำถาม, นี่คือรีวิว ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจเว็บเราง่ายขึ้น

4. จัดโครงสร้างให้อ่านง่ายและ AI ชอบ (Content Formatting)

เคล็ดลับที่ ANGA พบคือ AI ชอบข้อมูลที่ถูกจัดระเบียบและย่อยง่าย การจัดรูปแบบเนื้อหาจึงสำคัญมาก เช่น

  • ใช้ Bullet Points หรือ Numbered Lists : สำหรับข้อมูลที่เป็นข้อ ๆ หรือขั้นตอน
  • ใช้ H2, H3 แบ่งหัวข้อ : ทำให้ AI รู้ลำดับความสำคัญของเนื้อหา
  • ใช้ตาราง (Table) : สำหรับการเปรียบเทียบข้อมูล
  • ใช้ย่อหน้าสั้น ๆ : ทำให้อ่านง่าย สบายตา

5. อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (Cite Authoritative Sources)

การลิงก์ออกไปหาแหล่งข้อมูลภายนอกที่น่าเชื่อถือ (Outbound Link) ไม่ได้ทำให้เว็บคุณเสียคะแนน แต่กลับเป็นการสร้างความไว้วางใจให้ AI เห็นว่าเนื้อหาของคุณไม่ใช่การเขียนขึ้นมาลอย ๆ แต่ผ่านการค้นคว้าและมีแหล่งอ้างอิงที่ตรวจสอบได้ เช่น การเขียนบทความด้านสุขภาพและอ้างอิงงานวิจัยจากวารสารทางการแพทย์ หรือการเขียนบทความการตลาดและอ้างอิงสถิติ

6. ติดป้ายบอก AI ด้วย Schema Markup (Leverage Structured Data)

Schema Markup คือการเขียนโค้ดเพื่อ “ติดป้ายกำกับ” ให้ AI เข้าใจความหมายของข้อมูลแต่ละส่วนบนเว็บไซต์ของคุณอย่างชัดเจน เช่น

  • FAQ Schema : บอกว่าส่วนนี้คือชุดคำถามที่พบบ่อย
  • How-to Schema : บอกว่านี่คือบทความสอนทำอะไรเป็นขั้นตอน
  • Article Schema : บอกรายละเอียดของบทความ เช่น ชื่อผู้เขียน, วันที่เผยแพร่

การติดป้ายเหล่านี้ช่วยลดภาระให้ AI ในการตีความ และเพิ่มโอกาสให้เนื้อหาถูกดึงไปแสดงผลในรูปแบบที่เหมาะสม

7. สร้างโครงข่ายข้อมูลด้วย Internal Link

การเชื่อมโยงบทความที่เกี่ยวข้องกันภายในเว็บไซต์ของคุณ (Internal Link) เปรียบเสมือนการสร้างอาณาจักรความรู้ ที่แสดงให้ AI เห็นว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อนั้น ๆ อย่างลึกซึ้ง เช่น หากคุณเขียนบทความหลักเรื่อง “การตลาดออนไลน์” คุณควรมีลิงก์เชื่อมไปยังบทความย่อย ๆ เรื่อง SEO, Google Ads หรือ Social Media Marketing บนเว็บของคุณเอง

8. ทำให้ข้อมูลสดใหม่อยู่เสมอ (Keep Content Updated)

โลกออนไลน์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา AI เองก็ต้องการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยที่สุด ข้อผิดพลาดที่เราเคยเจอคือ บางเว็บไซต์ปล่อยให้บทความดี ๆ กลายเป็นข้อมูลที่ล้าสมัย เช่น บทความ “สมาร์ทโฟนน่าใช้ ปี 2023” ย่อมไม่มีประโยชน์สำหรับคนค้นหาในปี 2025 การหมั่นกลับไปตรวจสอบและอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ คือสัญญาณบอก AI ว่าเว็บไซต์ของคุณยังคง Active และเป็นแหล่งข้อมูลที่พึ่งพาได้

9. อย่าทิ้งพื้นฐาน SEO (Improve SERP Rankings)

อย่าลืมว่า AI Overviews คือส่วนที่แสดงผลอยู่บนหน้าผลการค้นหาแบบปกติ ดังนั้นพื้นฐานการทำ SEO ที่แข็งแกร่งยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เว็บไซต์ที่มีอันดับดีใน Top 10 อยู่แล้ว มีแนวโน้มที่จะถูก AI พิจารณาและเลือกไปแสดงผลมากกว่าเว็บที่อยู่อันดับท้าย ๆ ดังนั้นการทำ On-page SEO, Technical SEO และการสร้าง Backlink คุณภาพยังคงเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป

10. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้คนอ่าน (Improve User Experience - UX)

สุดท้ายแล้ว Google ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นอันดับหนึ่ง หากเนื้อหาของคุณดี แต่เว็บไซต์โหลดช้า, ใช้งานบนมือถือยาก หรือมี Pop-up เด้งมารบกวนเต็มไปหมด ผู้ใช้งานก็คงกดปิดทิ้งอย่างรวดเร็ว สัญญาณเชิงลบเหล่านี้จะทำให้ AI ลดความน่าเชื่อถือของเว็บคุณลงไปด้วย ดังนั้น การดูแลให้เว็บมี UX ที่ดีจึงเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การติด AI Overviews ที่มองข้ามไม่ได้

มุมมองจาก SEO Specialist ของ ANGA

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาฟังมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงของเรา 

โดย Piyawat Supsindumrong | SEO Specialist at ANGA Bangkok 

ในมุมมองของผมที่ทำงานด้าน SEO เรามองว่า AI Overviews ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ใหม่ แต่มันคือการเปลี่ยนสนามรบเลยครับ จากเดิมที่เราแข่งกันที่ตำแหน่งบนหน้าผลการค้นหา ตอนนี้เราต้องแข่งกันที่ ‘คุณภาพของคำตอบ’ ที่จะถูก AI เลือกไปใช้เป็นบทสรุปสุดท้าย ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจในตัวตนของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งกว่าเดิมมากจริง ๆ ครับ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ AI Overviews 

สรุปแล้ว AIO จะมาแทนที่ SEO ทั้งหมดเลยไหม? 

ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เป็นการทำงานร่วมกัน SEO แบบดั้งเดิม (Technical, Backlink) คือรากฐานที่แข็งแกร่ง ส่วนการปรับเนื้อหาสำหรับ AIO คือการต่อยอดเพื่อคว้าโอกาสในพื้นที่ใหม่ ๆ

ถ้า AI สรุปให้หมดแล้ว คนจะยังเข้าเว็บไซต์เราอยู่หรือเปล่า? 

ยังเข้าอยู่แน่นอน ผู้ใช้งานที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก, ต้องการเปรียบเทียบรายละเอียด หรือต้องการซื้อสินค้า/บริการ จะยังคงคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ที่ AI อ้างอิงเพื่อสร้างความมั่นใจและดูข้อมูลเพิ่มเติม

เราจะวัดผลความสำเร็จจากการติด AI Overviews ได้อย่างไร? 

ต้องเปลี่ยนมุมมองจากการวัด "คลิก" ไปสู่การวัด "การมองเห็น" (Impressions) และ "การถูกอ้างอิง" (Citations) ในเครื่องมืออย่าง Google Search Console รวมถึงการติดตาม Branded Search ที่อาจเพิ่มขึ้นหลังจากที่คนเห็นแบรนด์ของคุณใน AIO

ธุรกิจทุกประเภทจำเป็นต้องทำ AIO หรือไม่? (เช่น ธุรกิจ B2B, ธุรกิจ Local) 

จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจ Local SEO ที่ตอบคำถามประเภท “ใกล้ฉัน” และธุรกิจที่ให้ความรู้ (Informational) ซึ่งสามารถสร้างตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญผ่านการตอบคำถามที่ตรงจุดได้ดีกว่าคู่แข่งรายใหญ่

คอนเทนต์แบบวิดีโอหรือรูปภาพ มีโอกาสติด AIO ไหม? 

มีโอกาสสูงมาก AI Overviews สามารถดึงวิดีโอจาก YouTube หรือรูปภาพประกอบที่ชัดเจนไปแสดงผลได้เช่นกัน ดังนั้นการทำ SEO ให้กับคอนเทนต์ทุกรูปแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ

บทสรุป

การมาของ AI Overviews คือจุดเปลี่ยนที่นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจไม่อาจเพิกเฉย การยึดติดกับความสำเร็จแบบเดิม ๆ อาจทำให้คุณถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว ธุรกิจที่เข้าใจ, เรียนรู้ และนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ ไม่เพียงแต่จะอยู่รอด แต่ยังสามารถสร้างความได้เปรียบมหาศาลและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในสายตาของผู้บริโภคยุคใหม่

การหา วิธีทำให้ติด AI Overviews ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือกลยุทธ์สำคัญในการแข่งขันยุคต่อไป หากคุณต้องการที่ปรึกษาเพื่อวางกลยุทธ์ SEO และคอนเทนต์ให้พร้อมสำหรับสมรภูมิ AI Search ให้ ANGA ช่วยคุณคว้าโอกาสใน AI Overviews เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมวิเคราะห์และวางแผนเพื่อพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จ สามารถติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาได้ทันที LINE @ANGA หรือโทร 080-054-9199