ลองนึกถึงการทำ SEO เมื่อก่อนหน้านี้ เราต่างคุ้นเคยกับการใช้ไฟล์ robots.txt เพื่อทำหน้าที่เหมือน "ยามหน้าบ้าน" คอยบอก Search Engine ว่าพื้นที่ไหนในเว็บไซต์ "ห้ามเข้า" หรือไม่ต้องการให้เก็บข้อมูล แต่ในวันนี้ที่รูปแบบการค้นหาเปลี่ยนไป เมื่อ AI อย่าง Google AI Overviews เข้ามามีบทบาทในการอ่าน และสรุปเนื้อหาเพื่อไปตอบคำถามให้ผู้เสิร์ชโดยตรง การมีแค่ป้ายห้ามเข้าอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
เราจึงต้องการเครื่องมือใหม่ที่ทำหน้าที่เหมือน "บรรณารักษ์ผู้เชี่ยวชาญ" คอยชี้ทางและบอก AI ว่าข้อมูลอยู่ตรงนี้ หรือเนื้อหาชิ้นไหนคือชิ้นที่ดีที่สุดในเว็บไซต์ของเรา และนั่นคือบทบาทสำคัญของไฟล์ที่ชื่อว่า LLMs.txt
LLMs.txt คืออะไร เข้าใจง่าย ๆ ใน 2 นาที
หากจะอธิบายให้เห็นภาพที่สุด LLMs.txt (Large Language Models text) คือไฟล์ข้อความธรรมดา (.txt) ที่เราสร้างขึ้นเพื่อแนะนำหรือบอกใบ้ให้กับ AI หรือ Large Language Models ของผู้พัฒนาเจ้าต่าง ๆ (เช่น Google, OpenAI, Perplexity) ได้รับรู้ว่าเนื้อหาส่วนไหนในเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพดีที่สุด, มีความน่าเชื่อถือ, และเหมาะที่จะนำไปใช้ในการเรียนรู้หรือสร้างเป็นคำตอบให้กับผู้ใช้งาน
มันไม่ใช่ไฟล์บังคับ แต่เป็นเทคนิคเชิงรุก ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของเว็บไซต์ได้ควบคุมและนำเสนอข้อมูลที่ดีที่สุดของตัวเองให้กับ AI นั่นเอง
โดย เกน รัชวิทย์ หวังพัฒนธน - Managing Director at ANGA (คลิกประวัติ)
ถ้าคนทำ SEO มานานอาจจะไม่เคยรู้จักคำว่า LLM เพราะคำนี้ค่อนข้าง Technical แต่ถ้าพูดง่าย ๆ มันคือโมเดลที่ AI ใช้ในการเรียนรู้ภาษา บริบท เนื้อหาขนาดใหญ่ เพื่อปรับปรุงให้ AI แต่ละตัวมีคลังความรู้และคาแรคเตอร์ของตัวเองเวลา Generate คำตอบออกมา ก็น่าสนใจที่ว่าคนทำ SEO จะต้องเข้าใจด้วยว่า LLM ของแต่ละ AI มีลักษณะการทำความเข้าใจเนื้อหายังไง
ทำไม LLMs.txt ถึงเป็นเรื่องที่คนทำ SEO ต้องรู้
จากประสบการณ์ของ ANGA ที่ดูแลกลยุทธ์ SEO ให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย เรามองว่า LLMs.txt ไม่ใช่แค่เทรนด์ใหม่ แต่เป็นเครื่องมือที่จำเป็นด้วยเหตุผลหลัก 3 ข้อนี้
- AI กำลังจะกลายเป็นหน้าด่านใหม่ของการค้นหา : ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น AI Overviews ของ Google, Perplexity AI, หรือ ChatGPT ล้วนดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ไปสรุปและสร้างเป็นคำตอบโดยตรง ถ้าเราไม่กำหนดทิศทาง AI อาจเลือกข้อมูลจากหน้าที่เราไม่ได้ตั้งใจจะนำเสนอแทน
- สร้างความได้เปรียบให้ AI เลือกข้อมูลของเรา : การมีไฟล์ LLMs.txt ช่วยเพิ่มโอกาสให้ AI นำข้อมูลจากหน้าที่ถูกต้อง และเราอยากนำเสนอไปใช้งาน แทนที่จะปล่อยให้ AI สุ่มไปเจอหน้าเก่า ๆ หรือหน้าที่ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งจะทำให้คำตอบของ AI ที่อ้างอิงถึงเรามีคุณภาพสูงขึ้นด้วย
- ป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ผิดประเภท : ในทางกลับกัน เราสามารถใช้ไฟล์นี้เพื่อจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่อาจละเอียดอ่อน หรือหน้าที่เราไม่ต้องการให้ AI นำไปใช้ได้เช่นกัน
เทียบให้ชัด LLMs.txt vs. Robots.txt ต่างกันอย่างไร?
เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น เรามาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสองไฟล์นี้กัน
1. เป้าหมายการใช้งาน (Purpose)
- Robots.txt : คือ ป้ายห้ามเข้า (Rule) ที่ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ Crawler เข้าถึงบางส่วนของเว็บไซต์อย่างชัดเจน เช่น หน้าสำหรับผู้ดูแลระบบ หรือหน้าตะกร้าสินค้า
- Llms.txt : คือ ป้ายแนะนำ (Guideline) ที่ใช้เพื่อชี้เป้าไปยังเนื้อหาที่ดีที่สุดในเว็บไซต์ เปรียบเสมือนการไฮไลต์บทความชิ้นเอกให้ AI เห็นได้ง่ายขึ้น
2. ผู้รับสาร (Target)
- Robots.txt : สื่อสารกับ Search Engine Crawlers แบบดั้งเดิมเป็นหลัก (เช่น Googlebot, Bingbot)
- Llms.txt : ถูกออกแบบมาเพื่อสื่อสารกับ AI Crawlers โดยเฉพาะ (เช่น Google-Extended, ChatGPT-User, Omgilibot)
3. รูปแบบการสื่อสาร (Communication)
- Robots.txt : เป็นคำสั่งที่ค่อนข้างเด็ดขาด (Disallow) และ Crawler ส่วนใหญ่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- Llms.txt : เป็นเหมือนการให้คำแนะนำ หรือ Map ของเว็บไซต์ที่ช่วยให้ AI ตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าจะเรียนรู้จากส่วนไหน
คู่มือสร้างไฟล์ LLMs.txt ต้องทำอย่างไร
มาถึงส่วนสำคัญที่สุด คือการลงมือทำจริง ซึ่งไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เคล็ดลับที่ ANGA พบคือ หัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกเนื้อหา ไม่ใช่ความซับซ้อนของโค้ด
1. เริ่มจากการเลือกเนื้อหาบนเว็บไซต์
ก่อนจะสร้างไฟล์ เราต้องตอบให้ได้ก่อนว่า เนื้อหาหน้าไหนคือเนื้อหาที่ดีที่สุดของเว็บไซต์เรา ซึ่งก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่า LLM คืออะไรใน SEO และมันฉลาดพอที่จะประเมินคุณภาพของเนื้อหาได้ ดังนั้น เราควรเลือกหน้าที่แสดงถึงหลัก E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) สูงที่สุด
ตัวอย่างสถานการณ์จริง
สมมติว่าคุณทำเว็บไซต์ให้คำปรึกษาด้านการเงิน (ซึ่งเป็นหัวข้อ YMYL ที่ต้องให้ความสำคัญกับความถูกต้องสูงสุด)
- หน้าที่ไม่ควรเลือก : หน้าเกี่ยวกับเรา, หน้าข้อมูลทั่วไป, บทความสั้น ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมบริษัท
- หน้าที่ควรเลือก :
- บทความวิเคราะห์เจาะลึก "วางแผนเกษียณฉบับสมบูรณ์สำหรับฟรีแลนซ์" ที่เขียนโดยนักวางแผนการเงินที่ได้รับการรับรอง
- หน้า Whitepaper ที่รวบรวมข้อมูลสถิติและงานวิจัยเกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุน
- หน้า Case Study ที่แสดงผลลัพธ์ความสำเร็จของลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม
2. โครงสร้างและวิธีเขียนไฟล์ llms.txt
โครงสร้างของไฟล์นี้เรียบง่ายและคล้ายกับ robots.txt มาก
- User-agent : คือการระบุว่าจะสื่อสารกับ AI Crawler ตัวไหน (* หมายถึงทุกตัว)
- Allow : คือการอนุญาตให้เข้าถึง Path หรือ URL ที่กำหนด
- Disallow : คือการไม่อนุญาตให้เข้าถึง Path ที่กำหนด
ตัวอย่างโค้ด LLMs.txt
# นี่คือส่วนที่แนะนำสำหรับ AI Crawlers ทั้งหมด
User-agent: *
Allow: /blog/expert-article-1/
Allow: /research/annual-market-report-2025.pdf
# ระบุ Sitemap เพื่อให้ AI เห็นโครงสร้างเว็บทั้งหมดได้ง่ายขึ้น
Sitemap: https://www.yourwebsite.com/sitemap.xml
# ส่วนนี้สำหรับป้องกัน AI ของ OpenAI โดยเฉพาะ
User-agent: ChatGPT-User
Disallow: /internal-data/
ข้อผิดพลาดที่เราเคยเจอคือ ลูกค้าบางรายใส่แค่ URL ของหน้า Home Page ซึ่งอาจไม่ใช่หน้าที่ให้ข้อมูลที่ดีที่สุดแก่ AI หรือบางครั้งใส่ URL ที่เป็นหน้า 404 ไปแล้ว ดังนั้นควรตรวจสอบความถูกต้องของ URL เสมอ
3. การนำไฟล์ไปติดตั้งบนเว็บไซต์
นำไฟล์ที่สร้างเสร็จแล้วซึ่งตั้งชื่อว่า llms.txt ไปวางไว้ที่ Root Directory ของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับที่คุณวางไฟล์ robots.txt และ sitemap.xml
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ LLMs.txt
1. ตอนนี้ Google ใช้ไฟล์ llms.txt แล้วหรือยัง?
ถึงแม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า llms.txt เป็นมาตรฐาน แต่ Crawler ที่ชื่อว่า Google-Extended ซึ่งใช้สำหรับป้อนข้อมูลให้ AI ของ Google (Bard/Gemini) นั้น ถูกออกแบบมาให้เคารพกฎในไฟล์ robots.txt และมีแนวโน้มที่จะนำข้อมูลจาก llms.txt มาพิจารณา ดังนั้นควรทำไว้ก่อนจะดีที่สุด
2. ถ้าไม่สร้างไฟล์ llms.txt จะเป็นอะไรไหม?
ไม่ได้ส่งผลเสียโดยตรงในทันที แต่คุณจะเสียโอกาส ในการควบคุมและนำเสนอข้อมูลที่ดีที่สุดของตัวเอง ปล่อยให้ AI เรียนรู้จากหน้าเว็บของคุณอย่างไร้ทิศทาง ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระยะยาวหาก AI หยิบข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ครบถ้วนไปนำเสนอ
3. ไฟล์นี้จะมาแทนที่ Sitemap.xml หรือเปล่า?
ไม่สามารถแทนที่กันได้ เพราะทำหน้าที่คนละอย่าง Sitemap.xml คือแผนที่ทั้งหมดของเว็บไซต์ที่บอกว่าเว็บเรามีหน้าอะไรบ้าง แต่ llms.txt คือการคัดมาเฉพาะ "ลายแทงขุมทรัพย์" ที่ชี้ไปยังหน้าที่ดีที่สุดเท่านั้น ควรทำควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
บทสรุป
การมาของ AI Overviews ได้เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำ SEO ไปแล้ว การนั่งรอให้ถูกเลือกอาจส่งผลที่ไม่นัก ดังนั้นการทำ LLMs.txt จะเป็นเครื่องมือเชิงรุกที่ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดสามารถสื่อสารกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับตัวและนำมาใช้ก่อนไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องข้อมูล แต่ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบมหาศาลในการทำให้แบรนด์ของคุณกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือในสายตาของ AI
การเตรียมเว็บไซต์ของคุณให้พร้อมสำหรับอนาคต คือสิ่งที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้